คลังเล็งเก็บ VAT 7% สินค้านำเข้าทุกรายการมีผล พ.ค.นี้

02 พฤษภาคม 2567
คลังเล็งเก็บ VAT 7% สินค้านำเข้าทุกรายการมีผล พ.ค.นี้

“คลัง” เตรียมบังคับใช้ฎหมายเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้านำเข้าทุกรายการ มีผลเดือนพ.ค. นี้สร้างความเป็นธรรมผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมศุลกากร และกรมสรรพากรกำลังร่วมกันดำเนินการปรับปรุงข้อกฎหมายเพื่อการจัดเก็บภาษีภูมิค่าเพิ่ม (VAT) โดยไม่มีข้อยกเว้นสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาและทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อยในประเทศ ให้มีผลบังคับใช้ภายในต้นเดือนพ.ค.นี้

โดยจะมีการดำเนินการใน 2 แนวทาง คือ

1.ออกประกาศกรมศุลกากร เป็นกฎกระทรวงเพื่อเป็นกฎหมายระยะสั้น ให้มีผลบังคับใช้ในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าทันที ในเดือนพ.ค.

2.การแก้ไขกฎหมายเป็นการถาวร โดยกรมสรรพากรแก้ไขประมวลรัษฎากรในการยกเลิกการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าตามกฎหมายศุลกากร เพื่อให้กรมสรรพากรดำเนินการจัดเก็บแวตนำเข้าในทุกรายการสินค้า และให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

ทั้งนี้ ปัจจุบันสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้รับการยกเว้นการเก็บ VAT 7% เนื่องจากประมวลรัษฎากรได้เขียนผูกไว้กับกฎหมายศุลกากร ที่ให้ยกเว้นการเก็บแวตในสินค้านำเข้าที่กรมศุลกากรยกเว้นอากรให้ ซึ่งหนึ่งในสินค้าที่ได้รับการยกเว้นอากร คือ สินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า รวมทั้งลดภาระงานและใช้วิธีบริหารความเสี่ยงในการตรวจสอบสินค้าที่มีปริมาณมาก

โดยการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เป็นไปตามกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นเครื่องมือในการเปิดตลาดและอำนวยความสะดวกทางการค้าในระดับภูมิภาค อย่างไรก็ดี การกำหนดราคาขั้นต่ำดังกล่าว ยังเป็นที่ถกเถียงกันในเวทีโลกว่า ระดับราคาแท้จริงควรอยู่ที่เท่าไหร่ จึงจะได้ผลดีต่อการอำนวยความสะดวกทางการค้ามากที่สุด โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์สเพิ่มสูงขึ้นในทุกปี ซึ่งการกำหนดราคาศุลกากรขั้นต่ำดังกล่าว จะช่วยลดขั้นตอนการตรวจปล่อยสินค้าของเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดความคล่องตัวได้มากขึ้น


แหล่งที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.